งบไม่พอ! ซื้อ พัดลมยักษ์ มือ 2 ได้ไหม? ต่างกับมือ 1 อย่างไรบ้าง

เจ้าของธุรกิจหรือผู้ประกอบการที่ต้องการนำ “พัดลมยักษ์” ไปใช้งานในพื้นที่ดำเนินธุรกิจของตัวเอง แต่มีงบประมาณในการลงทุนค่อนข้างจำกัด จึงทำให้พัดลมยักษ์มือ 2 เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี สำหรับใครที่กำลังสนใจพัดลมมือ 2 แต่มีความกังวลเกี่ยวกับคุณสมบัติบางส่วน ซึ่งอาจเทียบกับพัดลมมือ 1 ไม่ได้

วันนี้ Yushi Group จะพาคุณมาทำความรู้จักกับพัดลมยักษ์ว่ามีหน้าที่การทำงานอย่างไร และคุณสมบัติใดบ้างที่พัดลมยักษ์ควรจะมี เพื่อเป็นการช่วยให้คุณได้เห็นความแตกต่างระหว่างพัดลมมือ 1 กับมือ 2 มากยิ่งขึ้น

 

พัดลมยักษ์มีหน้าที่การทำงานอย่างไร?

พัดลมยักษ์จะมีหลักการทำงานของมอเตอร์แบบ HVLS (High Volume Low Speed) เพราะใบพัดมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางสูงสุดถึง 7 เมตร ถือว่าเป็นใบพัดขนาดใหญ่ เมื่อไหร่ที่มอเตอร์เริ่มทำงานก็จะหมุนในรอบที่ต่ำ แต่สามารถสร้างปริมาณลมได้เป็นอย่างดี ช่วยให้มีกระแสลมครอบคลุมพื้นที่ได้ตั้งแต่ 1,000 ตารางเมตร เป็นต้นไป

ซึ่งการออกแบบของใบพัดเป็นตัวช่วยเสริมที่สามารถสร้างปริมาณลมได้ดีมากยิ่งขึ้น แถมคุณยังสามารถเปิดใช้งานพัดลมยักษ์ได้โดยที่ไม่ต้องกังวลกับค่าไฟฟ้า เพราะมอเตอร์ใช้พลังงานค่อนข้างต่ำ จึงช่วยให้คุณประหยัดไฟด้วยอีกต่างหาก

พัดลมยักษ์ มือ 2 ต่างกับมือ 1 อย่างไร?

การเลือกซื้อพัดลมยักษ์ไม่ว่าจะเป็นมือ 1 หรือมือ 2 ต้องมีคุณสมบัติหลักที่เหมือนกันคือ การระบายอากาศได้เป็นอย่างดี เพื่อช่วยลดอุณหภูมิภายในพื้นที่ และกำจัดกลิ่นที่ไม่พึ่งประสงค์หรือการสะสมของสารเคมีในอากาศ รวมไปถึงคุณสมบัติอื่นๆ ที่คุณควรนำไปเปรียบเทียบ ว่าถ้าหากซื้อพัดลมมือ 2 มาใช้จะคุ้มค่ากับการลงทุนหรือเปล่า

ความแข็งแรงของพัดลม

ความแข็งแรงของพัดลมยักษ์เป็นสิ่งแรกที่คุณควรคำนึงถึง ซึ่งพัดลมมือ 2 ผ่านการใช้งานมาอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าพัดลมจะมีการออกแบบและนำวัสดุที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษอย่าง อะลูมิเนียมหรือพอลิเมอร์คอมโพสิต (Polymer Composites) ที่ช่วยให้พัดลมมีความทนทานต่อทุกสภาพอากาศ สามารถนำไปขึ้นรูปเป็นพัดลมได้สะดวก หากถูกนำไปใช้งานแล้วย่อมมีการเสื่อมสภาพของวัสดุหรืออายุของพัดลมที่ลดลง

การเลือกใช้พัดลมยักษ์มือ 1 ถือว่าเป็นการเปิดใช้พัดลมตัวใหม่ จึงทำให้วัสดุของพัดลมไม่มีตำหนิหรือรอยต่างๆ ช่วยให้พัดลมมีอายุที่ยาวนานมากขึ้น แถมยังปลอดภัยกับผู้ใช้งาน เพราะใบพัดจะไม่มีรอยแตกร้าว จนเกิดอุบัติเหตุของเศษใบพัดตกลงตรงจุดของเครื่องจักรหรือพนักงานที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ ส่งผลให้ได้รับผลกระทบต่อการทำงานและเกิดการสูญเสีย

ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม

การซื้อพัดลมมือ 2 มาใช้ไม่ได้เสียแค่ค่าใช้จ่ายของพัดลมเท่านั้น แต่ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ จากการที่ต้องนำพัดลมยักษ์มาซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอะไหล่ในบางส่วน เพื่อเป็นการทำให้พัดลมสามารถใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งส่วนประกอบหลักที่คุณควรจะตรวจสอบได้แก่

• แกนยึดพัดลม คือจุดที่ช่วยยึดพัดลมเข้ากับเพดาน จะต้องดูให้ดีว่ารูที่ใช้เพื่อยึดนอตมีความแข็งแรงมากพอหรือไม่
• ตัวเครื่อง จะประกอบไปด้วยโครงที่ยังคงสามารถป้องกันไม่ให้มอเตอร์ได้รับความเสียหาย และการทำงานของมอเตอร์ควรทำให้ใบพัดหมุนได้ในระดับที่เหมาะสม
• ใบพัดลม ต้องตรวจสอบรอยร้าวหรือรอยแตกว่ามีบนใบพัดหรือไม่ เป็นการป้องกันไม่ให้ใบพัดหักในขณะที่กำลังหมุนทำงาน

แต่ถ้าเป็นพัดลมมือ 1 ที่คุณได้ทำการตรวจสอบแล้วพบว่า มีตำหนิหรือรอยร้าวที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากเรา แต่เป็นเพราะการผลิตหรือขนส่งให้แจ้งปัญหากับทางผู้จัดจำหน่ายได้ เพื่อเป็นการเปลี่ยนสินค้าโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม

การรักษาความปลอดภัยของผู้ใช้งาน

การใช้งานของ “พัดลมยักษ์” ที่มีมาตรฐาน เป็นการให้ความสำคัญเรื่องของความปลอดภัย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้งาน จึงทำให้คุณควรตรวจสอบให้ดีว่าพัดลมยักษ์มือ 2  มีระบบไฟฟ้าของพัดลม ที่ทำให้การจ่ายไฟอยู่ในระดับของแรงดันที่คงที่ เพื่อเป็นการช่วยให้มอเตอร์ไม่ได้รับความเสียหาย และยังมีระบบตัดการทำงานจากไฟฟ้าลัดวงจร ในกรณีที่มีไฟฟ้าไหลผ่านมากเกินไป

รวมไปถึงขั้นตอนของการติดตั้งพัดลมยักษ์ จะต้องมีการจ้างบริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับพัดลมยักษ์โดยตรง เพราะด้วยวิธีในการนำพัดลมไปติดตั้งบนเพดานหรือใต้อาคาร จะต้องมีอุปกรณ์ช่วยยกขึ้นที่สูง ไม่ว่าจะเป็น นั่งร้าน, รถบูมลิฟต์ และเอ็กซ์ลิฟต์ เป็นต้น (ขึ้นอยู่กับพื้นที่หน้างาน)

ตอนที่เริ่มทำการประกอบและติดตั้งพัดลม ไม่ได้มีเพียงแค่นำแกนพัดลมยึดกับโครงสร้างใต้อาคารเท่านั้น แต่ต้องมีการใส่แผ่นป้องกันนิรภัย, แผ่นวงแหวนกระจายแรง, ลวดสลิงนิรภัย และใช้นอตยึด เพื่อเป็นการป้องกันอีกชั้นไม่ทำให้พัดลมยักษ์ตกลงมาได้อย่างง่ายดาย

 

สรุปแล้วควรซื้อพัดลมยักษ์มือ 2 หรือไม่?

การเลือกซื้อพัดลมยักษ์มือ 2 จริงอยู่ที่ว่าตัวเครื่องมีราคาต่ำกว่ามือ 1 แต่ถ้าหากลองมาคำนวณจะมีค่าใช้จ่ายที่ตามมา ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนหรือซ่อมแซมอะไหล่บางส่วน และต้องจ้างผู้รับเหมาให้ทำการติดตั้งอีกต่างหาก หากเปรียบเทียบดูแล้วค่าใช้จ่ายอาจเทียบเท่ากับพัดลมยักษ์มือ 1 โดยที่พัดลมมือ 2 จะมีอายุการใช้งานที่มากกว่า มีบริการที่ไม่ครอบคลุม และมักจะเกิดปัญหาให้ต้องทำการซ่อมแซมอยู่บ่อยครั้ง

ทาง Yushi Group จึงขอแนะนำให้คุณลงทุนกับพัดลมยักษ์มือ 1 จะดีที่สุด เพราะนอกจากจะเป็นพัดลมใหม่ที่ไม่ได้ผ่านการใช้งานจากใครมาก่อน ยังมีบริการที่ช่วยดูแลคุณอย่างครบวงจรตั้งแต่ก่อนการซื้อและหลังการขาย โดยมีกระบวนการติดตั้งที่ได้รับมาตรฐาน ช่วยให้คุณมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัย และใช้งานพัดลมยักษ์ได้ในระยะยาวคุ้มค่าต่อการลงทุนอย่างแน่นอน

 

เลือกพัดลมยักษ์ที่ได้รับมาตรฐาน ต้องที่ Yushi Group

Yushi Group ดำเนินธุรกิจด้านการจำหน่าย ออกแบบ และติดตั้ง สินค้าที่เกี่ยวข้องกับ ‘พัดลมยักษ์’ เพื่อลดอุณหภูมิในพื้นที่ ให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก และสามารถลดกลิ่นที่ไม่พึ่งประสงค์ โดยมี 2 ประเภทให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็น

• AC Big Ceiling Fan วัสดุของใบพัดทำจากอะลูมิเนียม ช่วยให้ใบพัดมีความเหนียวไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดการแตกหักได้ง่าย โดยการทำงานของมอเตอร์จะต้องใช้งานคู่กับเกียร์ เพื่อให้การทำงานของไฟฟ้าอยู่ในความถี่ที่กำหนดของพัดลม
• Big Ceiling DC Fan เป็นใบพัดที่มีน้ำหนักเบา เพราะวัสดุทำมาจากพอลิเมอร์คอมโพสิต มีคุณสมบัติในการทนต่อความร้อนได้ดี ซึ่งมอเตอร์ที่ใช้จะมีขนาดเล็ก แต่ยังคงสามารถสร้างกระแสลมได้อย่างดีเยี่ยม ถึงแม้ว่าจะมีรอบในการหมุนต่ำ

ถ้าอยากให้อากาศภายในอาคารเย็นเร็วมากขึ้น สามารถใช้งานควบคู่กับ Evaporative Cooler จะช่วยลดความร้อนสะสมในพื้นที่ได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้มีลมเย็นหมุนเวียนในอาคาร สามารถส่งความเย็นได้อย่างครอบคลุมทั้งพื้นที่ถึง 1,600 ตารางเมตร โดยช่วยให้คุณประหยัดพลังงาน

นอกจากพัดลมยักษ์ยังมีพัดลมอุตสาหกรรม, พัดลมไอน้ำ, พัดลมอีแวป และเครื่องดูดควันเชื่อม และอื่นๆ อีกมากมายให้เลือกใช้ เพื่อความเหมาะสมของพื้นที่หน้างาน มาพร้อมกับบริการหลังการขายที่ช่วยดูแลคุณได้อย่างเต็มที่ เพราะมีอะไหล่สำรองทุกชิ้น ทำให้คุณสามารถใช้งานพัดลมอุตสาหกรรมได้สมบูรณ์ตลอดเวลา

 

หากต้องการติดต่อสอบถามข้อมูลของสินค้าและบริการ สามารถติดต่อเพิ่มเติมได้ที่นี่

Facebook: สินค้าอุตสาหกรรม เครื่องจักร งานติดตั้งระบบ Evap,Ventilation-Yushi Group
Line@: Yushi Group
YouTube: Yushi Group
E-mail: info@yushi.co.th
Tel: 02-517-0688